ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดของโลกดิจิทัล ความสามารถในการจัดการ วิเคราะห์ และแปลงข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลายเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับทุกสายอาชีพ หลักสูตร Data Science Bootcamp ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ด้วยการสอนแบบ Sprint-Based Learning ผู้เรียนจะได้พัฒนาความรู้และทักษะในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การจัดการข้อมูล การสร้างภาพข้อมูล การเรียนรู้ของเครื่อง ไปจนถึงการสร้างระบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทั้งหมดนี้เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงและสายงานได้ทันที

Sprint 1: พื้นฐานการวิเคราะห์ข้อมูล (Foundations of Data Analysis)

การแนะนำสู่ Data Science

ในส่วนนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ Data Science ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรในยุคดิจิทัล รวมถึงบทบาทต่าง ๆ เช่น Data Analyst, Data Engineer และ Data Scientist ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ว่าแต่ละบทบาททำหน้าที่อะไรในวงจรการจัดการข้อมูล

หัวข้อสำคัญ:

  • แนวคิดหลักของ Data Science และวงจรชีวิตของข้อมูล (Data Lifecycle)
  • บทบาทและความรับผิดชอบของผู้เชี่ยวชาญในสายงาน
  • การตั้งเป้าหมายและเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นสายงานนี้

ตัวอย่าง:
“การสร้างรายงานยอดขายประจำไตรมาสและการสรุปข้อมูลเพื่อช่วยผู้บริหารตัดสินใจ”

การใช้ Google Sheets สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น

Google Sheets เป็นเครื่องมือฟรีที่ทรงพลังสำหรับการจัดการข้อมูลในระดับพื้นฐาน ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ฟังก์ชันที่สำคัญ เช่น SUM, AVERAGE, และ VLOOKUP รวมถึงการใช้ Pivot Table เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

หัวข้อสำคัญ:

  • การนำเข้าข้อมูลจากไฟล์ CSV
  • การทำความสะอาดข้อมูล เช่น การลบค่าที่ซ้ำซ้อน
  • การคำนวณและสรุปข้อมูลด้วยสูตรพื้นฐาน
  • การสร้าง Pivot Table และแผนภูมิเพื่อแสดงข้อมูลในรูปแบบภาพ

ตัวอย่าง:
“สรุปยอดขายสินค้าแต่ละประเภทในแต่ละเดือนด้วย Pivot Table”

การสร้าง Second Brain ด้วย Notion

Notion เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการความรู้ส่วนตัวอย่างมีระบบ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีสร้างฐานข้อมูลส่วนตัว การบันทึกข้อมูลสำคัญ และการจัดระเบียบงานในชีวิตประจำวัน

หัวข้อสำคัญ:

  • การสร้างหน้าเพจสำหรับจัดการโปรเจกต์
  • การใช้ Tag และ Filter เพื่อการค้นหาที่รวดเร็ว
  • การสร้าง To-Do List สำหรับการติดตามงาน

ตัวอย่าง:
“การสร้างระบบบันทึกข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้งานในโปรเจกต์ต่าง ๆ”


Sprint 2: การจัดการฐานข้อมูลและ SQL (Database Management and SQL)

การใช้ SQL ในการดึงข้อมูล

SQL (Structured Query Language) เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการจัดการฐานข้อมูล ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำสั่งพื้นฐาน เช่น SELECT, WHERE, และ ORDER BY

หัวข้อสำคัญ:

  • การเขียนคำสั่ง SELECT เพื่อดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล
  • การใช้เงื่อนไข (WHERE) เพื่อกรองข้อมูล
  • การเรียงลำดับข้อมูล (ORDER BY)

ตัวอย่าง:
“ดึงข้อมูลลูกค้าทั้งหมดที่มียอดซื้อเกิน 10,000 บาท”

การรวมข้อมูลจากหลายตาราง

เมื่อข้อมูลถูกแยกอยู่ในหลายตาราง การใช้คำสั่ง JOIN จะช่วยให้สามารถรวมข้อมูลเหล่านั้นเข้าด้วยกันได้

หัวข้อสำคัญ:

  • การใช้ INNER JOIN, LEFT JOIN และ RIGHT JOIN
  • การดึงข้อมูลจากตารางที่มีความสัมพันธ์ เช่น ลูกค้าและคำสั่งซื้อ
  • การสร้าง Query เพื่อสรุปข้อมูลจากหลายแหล่ง

ตัวอย่าง:
“รวมข้อมูลลูกค้าและคำสั่งซื้อเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อสินค้า”


Sprint 3: การเขียนโปรแกรมพื้นฐานด้วย Python (Python Basics)

พื้นฐานการเขียนโปรแกรมด้วย Python

Python เป็นภาษาโปรแกรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ตัวแปร (Variable), เงื่อนไข (Condition), และการทำซ้ำ (Loop)

หัวข้อสำคัญ:

  • การติดตั้ง Python และการใช้งาน Jupyter Notebook
  • การเขียนโปรแกรมพื้นฐาน เช่น การรับค่าจากผู้ใช้
  • การจัดการข้อมูลเบื้องต้นด้วย List และ Dictionary

ตัวอย่าง:
“เขียนโปรแกรมคำนวณเกรดเฉลี่ยของนักเรียนจากคะแนนที่ป้อนเข้าไป”

การจัดการข้อมูลด้วย Pandas

Pandas เป็นไลบรารีที่ออกแบบมาสำหรับการจัดการข้อมูลใน Python ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้งาน DataFrame ซึ่งเป็นโครงสร้างข้อมูลที่ทรงพลัง

หัวข้อสำคัญ:

  • การอ่านและเขียนไฟล์ CSV
  • การเพิ่มและลบคอลัมน์
  • การกรองข้อมูลด้วยเงื่อนไข

ตัวอย่าง:
“สร้าง DataFrame เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มยอดขายของสินค้าตามฤดูกาล”


Sprint 4: การแปลงและทำความสะอาดข้อมูล (Data Transformation and Cleaning)

การทำความสะอาดข้อมูล

ข้อมูลดิบที่ได้มาอาจมีปัญหา เช่น ข้อมูลหายไป (Missing Values) หรือค่าที่ไม่ถูกต้อง (Outliers) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาเหล่านี้เพื่อให้ข้อมูลพร้อมสำหรับการวิเคราะห์

หัวข้อสำคัญ:

  • การจัดการค่าที่หายไปด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การเติมค่าด้วย Mean, Median
  • การระบุและกำจัด Outliers ด้วย Boxplot หรือ Z-Score
  • การลบข้อมูลซ้ำ (Duplicate)

ตัวอย่าง:
“ใช้ Pandas ในการเติมค่าที่หายไปในชุดข้อมูลยอดขายด้วยค่าเฉลี่ยของคอลัมน์”

การแปลงข้อมูล

ข้อมูลบางครั้งอาจต้องการการแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น การสร้างฟีเจอร์ใหม่จากข้อมูลเดิม (Feature Engineering)

หัวข้อสำคัญ:

  • การแปลงข้อมูลวันที่และเวลา
  • การสร้างคอลัมน์ใหม่จากการคำนวณ
  • การเข้ารหัสข้อมูลประเภทข้อความเป็นตัวเลข (Encoding)

ตัวอย่าง:
“แปลงข้อมูลวันที่ของคำสั่งซื้อเป็นคอลัมน์ ‘เดือน’ เพื่อการวิเคราะห์ตามฤดูกาล”


Sprint 5: การสร้างภาพข้อมูล (Data Visualization)

การสร้างภาพข้อมูลด้วย Matplotlib และ Seaborn

การสร้างภาพข้อมูลช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น และสามารถสื่อสารผลการวิเคราะห์ให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การสร้างกราฟหลายประเภท

หัวข้อสำคัญ:

  • การสร้างแผนภูมิแท่ง (Bar Chart), แผนภูมิวงกลม (Pie Chart)
  • การใช้ Seaborn สร้าง Heatmap สำหรับดูความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
  • การปรับแต่งกราฟ เช่น การเพิ่มชื่อแกนและปรับสี

ตัวอย่าง:
“สร้าง Heatmap เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างยอดขายและการโฆษณา”

การเล่าเรื่องด้วยข้อมูล (Data Storytelling)

การเล่าเรื่องด้วยข้อมูลช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการนำเสนอ ผู้เรียนจะได้ฝึกการนำเสนอข้อมูลเชิงภาพที่มีบริบทและประเด็นที่ชัดเจน

ตัวอย่าง:
“นำเสนอยอดขายรายไตรมาสพร้อมคำอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อยอดขาย”


Sprint 6: สถิติพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล (Basic Statistics)

สถิติเชิงพรรณนา

การสรุปข้อมูลด้วยสถิติเบื้องต้น เช่น ค่าเฉลี่ย (Mean), ค่ามัธยฐาน (Median), และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เพื่อทำความเข้าใจข้อมูลในเชิงลึก

หัวข้อสำคัญ:

  • การคำนวณและแปลความหมายของสถิติเบื้องต้น
  • การวิเคราะห์การกระจายของข้อมูลด้วย Histogram

ตัวอย่าง:
“วิเคราะห์แนวโน้มรายได้เฉลี่ยของลูกค้าแต่ละกลุ่ม”

การทดสอบสมมติฐาน (Hypothesis Testing)

การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผลการวิเคราะห์ด้วยสถิติ เช่น การทดสอบ T-Test หรือ ANOVA

ตัวอย่าง:
“ทดสอบว่ายอดขายของสองแคมเปญโปรโมชั่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่”


Sprint 7: การสร้างแดชบอร์ดด้วย Looker Studio

การสร้างแดชบอร์ด

Looker Studio (เดิมชื่อ Google Data Studio) เป็นเครื่องมือฟรีสำหรับสร้างแดชบอร์ด ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การเชื่อมต่อข้อมูลและสร้างภาพรวมของข้อมูลแบบอินเทอร์แอกทีฟ

หัวข้อสำคัญ:

  • การเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Google Sheets และ BigQuery
  • การสร้างกราฟและการ์ดข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • การออกแบบแดชบอร์ดให้สวยงามและเข้าใจง่าย

ตัวอย่าง:
“สร้างแดชบอร์ดเพื่อแสดงผลยอดขายรายเดือนแยกตามภูมิภาค”

การเผยแพร่และแชร์แดชบอร์ด

การแชร์แดชบอร์ดกับทีมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างปลอดภัย

ตัวอย่าง:
“แชร์ลิงก์แดชบอร์ดกับทีมผู้บริหารเพื่อดูผลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์”


Sprint 8: การเรียนรู้ของเครื่องเบื้องต้น (Introduction to Machine Learning)

การสร้างโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง

เรียนรู้กระบวนการสร้างโมเดล Machine Learning ตั้งแต่การแบ่งข้อมูล การเลือกอัลกอริทึม และการฝึกฝนโมเดล

หัวข้อสำคัญ:

  • การแบ่งข้อมูลเป็น Training และ Test Set
  • การสร้างโมเดลด้วย Linear Regression และ Decision Tree
  • การประเมินผลด้วย Metrics เช่น Accuracy, Precision

ตัวอย่าง:
“สร้างโมเดล Linear Regression เพื่อทำนายราคาบ้าน”


Sprint 9: การพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress

การสร้างและจัดการเว็บไซต์

เรียนรู้การสร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ ด้วย WordPress และการใช้งาน Theme และ Plugin เพื่อเพิ่มความสามารถของเว็บไซต์

หัวข้อสำคัญ:

  • การติดตั้ง WordPress และการปรับแต่งหน้าแรก
  • การสร้างโพสต์และหน้าเพจ
  • การติดตั้งปลั๊กอินเสริม เช่น SEO, Analytics

ตัวอย่าง:
“สร้างเว็บไซต์บริษัทพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับบริการและทีมงาน”


Sprint 10: การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming)

การสร้างคลาสและออบเจ็กต์

เรียนรู้แนวคิด OOP เช่น คลาส (Class), ออบเจ็กต์ (Object), และการสืบทอดคลาส (Inheritance)

หัวข้อสำคัญ:

  • การออกแบบคลาสสำหรับระบบจริง เช่น ระบบจัดการร้านค้า
  • การใช้ Constructor และ Method เพื่อจัดการข้อมูล
  • การประยุกต์ใช้ OOP ในโปรเจกต์

ตัวอย่าง:
“สร้างคลาสสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้าในระบบร้านค้าออนไลน์”


บทสรุป

หลักสูตร Data Science Bootcamp ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะด้าน Data Science อย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้แต่ละ Sprint ช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในเรื่องการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ และการนำข้อมูลไปใช้งานจริง หลักสูตรนี้ยังเน้นการสร้างผลงานที่จับต้องได้ เช่น การสร้างโมเดล Machine Learning หรือการพัฒนาแดชบอร์ดที่ใช้งานจริง ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในสายงานได้ทันที

Comments

comments