🔹 1. การสร้างงบประมาณคืออะไร?
📖 Budgeting (การจัดทำงบประมาณ) คือ?
- การวางแผน รายรับ และ รายจ่าย ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้เราควบคุม ค่าใช้จ่าย (Expenses) และสะสม เงินออม (Savings) ได้ง่ายขึ้น
📌 ทำไมต้องมีงบประมาณ?
✅ ป้องกันปัญหาเงินหมดก่อนสิ้นเดือน
✅ ช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน เช่น ซื้อบ้าน ลงทุน หรือเก็บเงินฉุกเฉิน
✅ ลดหนี้และเพิ่มสินทรัพย์
🔹 2. วิธีบริหารเงินแบบ Zero-Based Budgeting
📖 Zero-Based Budgeting (งบประมาณฐานศูนย์) คืออะไร?
- วิธีการจัดทำงบประมาณที่ทำให้ รายรับ – รายจ่าย = 0 บาท
- ทุกบาทที่ได้รับ ต้องถูกจัดสรรไปยัง ค่าใช้จ่าย ออม หรือ ลงทุน
- ไม่มีเงินเหลือใช้แบบไม่มีแผน
📌 สูตรคำนวณรายได้ทั้งหมด−ค่าใช้จ่ายทั้งหมด−เงินออม−การลงทุน=0รายได้ทั้งหมด – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด – เงินออม – การลงทุน = 0รายได้ทั้งหมด−ค่าใช้จ่ายทั้งหมด−เงินออม−การลงทุน=0
📊 ตัวอย่างการใช้ Zero-Based Budgeting
📌 สมมติว่า คุณมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน
คุณต้องทำให้แน่ใจว่าเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพ
หมวดหมู่ | รายจ่าย (บาท) |
---|---|
ค่าใช้จ่ายจำเป็น (Needs) | 15,000 บาท |
ไลฟ์สไตล์ (Wants) | 7,000 บาท |
เงินออมฉุกเฉิน (Emergency Fund) | 3,000 บาท |
ลงทุนในกองทุนรวม / หุ้น | 3,000 บาท |
บริจาค หรือ ใช้ช่วยเหลือผู้อื่น | 2,000 บาท |
รวมทั้งหมด | 30,000 บาท |
📌 ผลลัพธ์: ทุกบาทมีเป้าหมาย → เงินถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
🔹 3. การติดตามค่าใช้จ่าย (Expense Tracking)
📖 Expense Tracking (การติดตามค่าใช้จ่าย) คืออะไร?
- การจดบันทึกว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง
- วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่ “ฟุ่มเฟือย” หรือไม่
📌 วิธีติดตามค่าใช้จ่าย
✅ ใช้ Excel/Google Sheets ทำตารางบันทึกรายจ่าย
✅ ใช้ แอปจัดการเงิน เช่น Money Lover, YNAB, Spendee
✅ ตรวจสอบรายการใช้จ่ายทุกวันหรือทุกสัปดาห์
🔹 4. เงินสำรองฉุกเฉิน (Emergency Fund) คืออะไร?
📖 Emergency Fund (เงินสำรองฉุกเฉิน) คือ?
- เงินที่เก็บไว้ใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน เจ็บป่วย หรือรถเสีย
- เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้าง ความมั่นคงทางการเงิน
📌 ทำไมต้องมีเงินสำรองฉุกเฉิน?
✅ ป้องกันการใช้ บัตรเครดิต หรือ กู้ยืม เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
✅ ช่วยให้ไม่ต้องถอนเงินลงทุนมาใช้
✅ ทำให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินพอใช้แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
📊 วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน
เงินสำรองฉุกเฉิน=ค่าใช้จ่ายต่อเดือน×จำนวนเดือนที่ต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน = ค่าใช้จ่ายต่อเดือน \times จำนวนเดือนที่ต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน=ค่าใช้จ่ายต่อเดือน×จำนวนเดือนที่ต้องการเก็บ
💡 ตัวอย่าง:
- ค่าใช้จ่ายต่อเดือน = 15,000 บาท
- เป้าหมายเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน
- ต้องมีเงินสำรอง 15,000 × 6 = 90,000 บาท
📌 คำแนะนำ:
✅ เริ่มเก็บจาก 1 เดือน ก่อน และค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
✅ เก็บเงินไว้ใน บัญชีที่ถอนง่ายและไม่มีความเสี่ยงสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง
📊 ตัวอย่างการจัดทำงบประมาณใน Excel
📌 วิธีทำตารางใน Excel สำหรับ Budgeting
1️⃣ สร้างตารางรายได้ & รายจ่าย
รายการ | ประเภท | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
เงินเดือน | รายรับ | 30,000 |
ค่าเช่าบ้าน | ค่าใช้จ่าย | 7,000 |
ค่าน้ำ-ไฟ | ค่าใช้จ่าย | 2,000 |
ค่าอาหาร | ค่าใช้จ่าย | 3,000 |
ค่าผ่อนรถ | ค่าใช้จ่าย | 3,500 |
ค่าบัตรเครดิต | ค่าใช้จ่าย | 1,500 |
ลงทุนในกองทุน | การลงทุน | 3,000 |
ออมเงินฉุกเฉิน | เงินออม | 3,000 |
2️⃣ คำนวณยอดเงินเหลืออัตโนมัติใน Excel
ใช้สูตร:
sqlCopyEdit=SUM(รายรับทั้งหมด) - SUM(รายจ่ายทั้งหมด)
เพื่อดูว่ายอดเงินเหลือเป็น 0 หรือไม่ (ตามหลัก Zero-Based Budgeting)
📱 แอปแนะนำสำหรับบริหารงบประมาณ
📌 ถ้าไม่อยากใช้ Excel สามารถใช้แอปจัดการเงินเหล่านี้ได้
1️⃣ Money Lover – เหมาะสำหรับติดตามรายรับรายจ่าย
2️⃣ YNAB (You Need A Budget) – เน้นการบริหารเงินแบบ Zero-Based Budgeting
3️⃣ Spendee – แยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ง่าย
4️⃣ Mint – ใช้เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร
🚀 Task: สร้างงบประมาณของคุณเอง
📌 คำถามสำหรับคุณ:
✅ คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?
✅ ค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือนของคุณอยู่ที่เท่าไหร่?
✅ คุณต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินกี่เดือน?
No Comment