วันนี้ พี่หมีแว่น มีหนังสือดีๆ มาแนะนำกันครับ หนังหนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “ชีวิตมั่งคั่ง ด้วย กระเป๋าสตางค์ ใบเดียว”

ของสำนักพิมพ์ We Learn ราคา 150 บาท อยู่ในหมวกธุระกิจนะครับ  แหมะ มีโปรโมทให้กันเลยทีเดียว

เอาละครับ เข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า หนังสือเล่มนี้ พี่หมีแว่น สะดุดกับ ชื่อหนังสือเล่มนี้ครับ แถมหนังสือเล่มนี้ก็ขึ้นอันดับ 1 เสียด้วยสิ

พี่หมีแว่นจดๆ จ้องๆอยู่นาน ว่าเอ๊ะ แค่กระเป๋าสตางค์ใบเดียวเนี่ยนะ จะทำให้ ชีวิตของเรา ร่ำรวย มั่งคั่ง เป็นไปได้จริงๆหรอเนี่ยะ

พี่หมีก็เลยคิดในใจเอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ ลองเดินเข้าไป หยิบๆจับๆ เปิดๆดูหน่อยละกัน เผื่อจะรวยกับเขาบ้าง ฮ่าๆๆ

โดยลองเปิดอ่าน สารบัญดูนิสสสนึง ว่ามีอะไรบ้าง หัวเรื่องจะโดนๆ ตามชื่อหนังสือไหม ดูไปดูมาก็สะดุดหลายๆหัวเรื่องเลย

ไม่ว่าจะเป็น “กระเป๋าสตางค์ต้องห้าม” , พูดว่า “ไปดีนะ” และ “กลับมาแล้วหรอ” พูดทำไมแว๊  แอบสงสัย ฮ่าๆ  หรือ “กฎ 200 เท่า ” แค่เห็นกระเป่าสตางค์ก็รู้รายได้ เห้ย

แบบแอบตกใจ เห็นแค่นั้นรู้เลยหรอ ว่าวันนี้พี่หมีแว่น มีรายได้ เท่าไหร่  แหม่ เห็นหัวข้อโดนๆแบบนี้ จะมีหรือที่พี่หมีแว่นรอช้า รีบบึ่งไป จ่ายเงินค่าหนังสือโดนบันดล เอิ้กๆ

 

หลังจากที่ได้หนังสือ มาในครอบครอง พี่หมีได้ทำการสแกนข้อมูลและรายละเอียดของหนังสือ ได้ดังนี้นะครัชช

บทที่ 1  ถ้าไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน จงเปลี่ยนที่ “กระเป๋าสตางค์”  เฮ้ย แค่เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์เนี่ยนะ  ฮ่า

บทที่ 2  กฎ 10 ข้อ ว่าด้วย “วิธีใช้กระเป๋าสตางค์” ของคนหาเงินเก่งๆ     ขอแค่สัก 5 ข้อ ก็ยิ้มแล้วสิเรา วะฮะๆ

บทที่ 3  จงจำแนกเงินในกระเป๋าสตางค์ ออกเป็น 3 ประเภท  มีอะไรบ้างน๊ออออ

บทที่ 4  คติประจำใจเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์ ของคนมีตังค์  คติเยอะไหมเดี๋ยวลองมาดูกัน

 

ในแต่ละบทนั้นพี่หมีมองว่า แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว เอาอย่างงี้แล้วกัน วันนี้พี่หมีขอเล่าบทที่ 1 ให้ฟังนะครับ แล้วลองดูว่า

ทำไมเราควรจะเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ของเราซะ ถึงจะรู้ว่าชีวิตไปทางไหน เรามาเริ่มกันเลยครับ

 

เงินในมือคืองบการเงินของ “ตัวคุณในอดีต”

รูปแบบการดำเนินชีวิตของเราเป็นตัวบ่งชี้อนาคตของเรา เพราะเงินไม่ใช่สิ่งที่จะไปๆมาๆเองได้ แต่เป็นตัวเรานั่นเอง ที่เป็นคนกำหนดทิศทางของเงิน

จะใช้แหลก จะใช้อย่างระมัดระวัง มันขึ้นกับตัวเรา อย่างไรเสีย เราควรปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่ออนาคตที่ดีของเราเอง

กฎ 200 เท่า แค่เห็นกระเป๋าก็รู้รายได้

ราคาของกระเป๋าสตางค์ X 200”   เท่ากับ รายได้ต่อปีของเราเลยทีเดียว กฎแบบนี้มันมีด้วยหรอ???  อาจจะไม่ตรงเป๊ะๆ แต่ผู้เขียนบอกว่า มันจะค่อยๆปรับเข้าใกล้ตามกฎข้อนี้

ถ้าหากว่าเราใช้กระเป๋าสตางค์ในราคาถูก รายได้ของเราจะน้อยตามราคาด้วย  โดยเนื้อหาก็จะบอกเกี่ยวกับบุคคลต่างๆที่ผูเขียนไปพบมาว่าทำไมกฎนี้ถึงมีความเป็นไปได้

พี่หมีเดาว่า อาจจะเพราะ ใช้กระเป๋าแพงๆต้องรีบขยันขันแข็ง ทำงานหารายได้มามากๆไม่งั้นคงไส้แห้งกันเป็นแน่แท้ ฮ่าๆ

ทำไมคนหาเงินเก่งถึงใช้กระเป๋าสตางค์ทรงยาวกัน

คนที่ให้ความสำคัญกับเงินนั้น จะให้ความสำคัญกับเงินที่เข้าหรือออกโดยทั่วไปจะใช้กระเป๋าทรงยาวเพื่อให้เก็บเงินเป็นระเบียบเรียบร้อย หยิบใช้ได้ง่าย และทำการเรียงทิศทางของแบงค์ไปในด้านเดียวกัน และแบงค์ที่เก็บนั้นมักจะเป็นแบงค์ใหม่เสมอ และเวลาที่พวกเราเหล่าผู้ชายใช้กระเป๋าสตางค์ทรงยาว ทำให้นั่งทับไม่ได้ กระเป๋าจะอยู่ทรงครับ ไม่เสียตังซื้อใหม่ด้วยนะเอ้อ

เงินไม่ชอบ กระเป๋าสตางค์อ้วน !!

คนส่วนใหญ่จะเก็บทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบัตรลด นามบัตร บัตรเครดิต เหรียญ สลิปบัตร โอ้ย นั่นนี่เยอะไปหมดในกระเป๋าสตางค์ ทำให้มันดูรกไปหมด แถมจะหยิบเงินก็ลำบาก (พี่หมีก็แอบเป็นแบบนั้น แหะๆ)

ผู้เขียนได้เสนอว่า เราควรฝึกวินัยให้ตัวเอง โดยให้ทำการ clear กระเป๋าสตางค์ของเราทุกๆวัน เพื่อจะทำให้เรารู้ว่า ในกระเป๋าสตางค์ของเรามีเงินเท่าไหร่ บัตรไหนเก่าแล้วให้ทิ้งไป

ให้หากระเป๋าเล็กสำหรับใส่เหรียญเพื่อให้ง่าย เวลาที่ต้องซื้อของที่มีเศษ รวมถึงหากระเป๋าสำหรับใส่นามบัตร เท่านี้ กระเป๋าสตางค์ของเราก็จะไม่อ้วนอีกต่อไปแล้ว

เลิก ซื้อเพราะถูก แล้วหันมา เลือกซื้อเพราะอยากได้ ดีกว่า

คนส่วนใหญ่จะวิ่งเข้าใส่ในทันที่ เมื่อเห็นป้ายราคาสินค้าลดราคา 50% ลดกระหน่ำกันไปเลย สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างนิสัยที่ฟุ่มเฟือย คนที่เก็บเงินอยู่จะไม่ใช้เงินแบบนี้

จะรอจนซื้อเพราะอยากได้ เพราะ จะทิ้งเหตุผลที่ว่าของมันถูก แต่จะมองที่ว่า มันมีคุณค่าที่จะใช้ได้ไปนานๆ

 

เอาเป็นว่า สรุปเลยละกันฮ่า

หนังสือเล่มนี่ถูกอกถูกใจแน่นอนครับ สำหรับการฝึกนิสัยการใช้เงิน การเห็นคุณค่าของเงิน ลงทุนแต่อายุยังน้อย แบ่งเงินเป็นส่วนๆ  และ ปรับเปลี่ยนรูปแบบชีวิตแบบเดิมๆของเรา

เพราะในหลายๆบทนั้นจะบอกข้อดีต่างๆไว้ และ พี่หมีก็เห็นว่ามันเป็นจริงตามที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมนะครับ

ต้องลงมือทำ ค่อยๆทำ ค่อยๆปรับเปลี่ยนกันไปครับ เพราะถ้าไม่ลอง ลงมือทำ สักตั้ง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า แค่เราเปลี่ยน กระเป๋าสตางค์ ใบใหม่

จะทำให้เรามีชีวิตที่มั่งคั่งขึ้นตามที่หนังสือได้บอกไว้  และ อยากจะฝากหนังสือเล่มนี้ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ สำหรับน้องๆ นร นักศึกษา และ คนทำงานกินเงินเดือนแบบเราๆท่านๆฮ่า

งั้นวันนี้ พี่หมีแว่น ขอลาแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณนะค้าบบ ที่ทนอ่านจนจบ ฮ่าๆ

ปล. ถ้าใครอยากให้สรุปบทที่ 2 -4  กระซิบมานะครับถ้าถามกันมาเยอะ พี่หมีแว่นจะสรุปเพิ่มให้นะค้าบบบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Comments

comments