เคยมั้ยที่คุณรู้สึกหมดศรัทธากับคนๆนึง
เคยมั้ยที่คุณรู้สึกผิดหวังจากสิ่งที่คนๆนั้นทำ
เคยมั้ยที่คุณรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดไป เพราะความเชื่อใจ
เคยมั้ยที่คุณรู้สึกมองคนผิด
เคยมั้ยที่คุณรู้สึกเสียดายเวลาตลอดเวลาที่คุณรู้จักกันมา
ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าตัวเองโง่ที่เชื่อใจใครซักคนนึงได้ง่ายๆแล้วหละก็ ขอให้คุณหยุดความคิดนั้น
เพราะคุณไม่ได้โง่ แต่แค่คุณตามเล่เหลี่ยมคนเหล่านั้นไม่ทัน
การที่คนเราจะไว้ใจใครซักคนนึงนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ขอแค่เพียงเรามอบความเชื่อใจให้เค้าก่อน
และเมื่อเค้ารับรู้ได้ถึงความเชื่อใจ เค้าก็จะค่อยๆแสดงพฤติกรรมที่แท้จริงของเค้าออกมา
จงเชื่อเถิดว่าความลับนั้นไม่มีในโลก ต่อให้เค้าแกล้งทำดีเท่าไหร่ ถ้าเค้าคนนั้นไม่มีความจริงใจแล้วหละก็
สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็จะค่อยปรากฎขึ้นเองตามธรรมชาติของมัน แต่ถ้าคนไหนที่จริงใจและมอบความเชื่อใจ
ให้คุณกลับมาแล้ว จงเก็บรักษาคนๆนั้นไว้ให้ดี เพราะ จากล้านคน คุณอาจจะเจอคนประเภทนี้แค่ 1%
ก็อาจเป็นไปได้
ความเชื่อใจนั้นเราสามารถให้กันได้ง่ายแต่เปอเซ็นต์ของความเชื่อใจของแต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันไป
ตามการแสดงพฤติกรรมของแต่ละคนที่เราได้เห็นและได้สัมผัสมา
การที่คนคนนึงจะสามารถเพิ่มเปอเซ็นต์ความเชื่อใจให้กับอีกคนคนนึงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
เพราะความเชื่อใจนั้นกว่าจะเต็มร้อยได้ ก็อาจจะต้องใช้เวลานานแสนนานในการพิสูจน์เพื่อให้อีกคนยอมรับ
แต่ในอีกทางหนึ่งสำหรับคนบางคน ความเชื่อใจในตอนแรกก็สามารถให้เต็มที่ร้อยเปอเซ็นต์ได้เลย
นั่นแสดงให้เห็นว่า เมื่อเราให้ใจใครเต็มที่ก่อน เราก็หวังว่าเราจะได้ความเชื่อใจเต็มที่จากอีกคนคนนึงกลับมา
เช่นกัน เท่ากับว่า ถ้าเราต้องการอยากรู้ว่าใครสามารถเชื่อใจได้ เราก็ควรที่จะให้ความเชื่อใจกับเค้าก่อน
ความเชื่อใจก็เปรียบเสมือนแจกันหนึ่งใบที่สวยงามวางเด่นประดับตามที่ต่างๆ
วันนึงถ้าความเชื่อใจของเราค่อยๆลดลง นั่นก็แสดงว่า แจกันของเราก็จะเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นมา
ถ้าเรายิ่งเจอคนที่ไว้ใจไม่ได้มากๆแล้วหละก็ แจกกันก็จะค่อยๆเริ่มร้าวออกมา เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง
ที่ความเชื่อใจเราลงดิ่งต่ำเข้าใกล้กับศูนย์ นั่นแสดงว่าแจกันใบสวยงามใบนี้ได้พังแตกสลายไปแล้ว
และเมื่อมันแตกสลายไปแล้วนั้นย่อมหมายความว่า การที่เราจะนำแจกันใบเดิมนั้นกลับมาต่อใหม่ให้เป็น
เหมือนเดิมสภาพเดิมนั้นก็คงทำได้ยาก ก็เปรียบเสมือนความเชื่อใจที่ไม่มีวันสามมรถกลับมาเป็นแบบ
เดิมได้อีกครั้ง เมื่อมันไม่สามารถเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง ทางเดียวที่จะต้องทำก็คือพิสูจน์ตัวเอง
เพื่อให้ความเชื่อใจต่างๆกลับมาเหมือนเดิม ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ร้อยเปอเซ็นต์เต็ม
แต่อย่างน้อยก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าสำนึกผิดและต้องการที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
จงอย่าลืมว่าเพื่อนที่แท้จริงนั้นไม่สามารถหากันได้ง่ายๆ กว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์และทำให้เชื่อใจกันได้นั้น
ต้องใช้ระยะเวลานานขนาดไหน จงอย่าทำลายความเชื่อใจกันที่มีให้กันมานานเพราะอารมณ์ชั่ววูป
หรือความคิดที่ไร้สติเพียงชั่วขณะ เพราะการที่ทำลงไปแล้วนั้นผลที่ได้มามันไม่คุ้มกับสิ่งที่คุณจะต้องเสียมันไป
ตลอดการอีกเลย จงมีสติไตร่ตรองทุกครั้งก่อนทำอะไรลงไป
เพราะความเชื่อมั่นและความเชื่อถือใจกันมันมีให้กันได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ถ้าความเชื่อมั่นเชื่อใจกันได้หมดลงไปแล้วนั้นสิ่งที่คงจะค้างอยู่ก็คงเป็นไปได้แค่เพียง
ศัตรู และ คนหักหลังกัน ….
เพื่อนๆชาวหมีเสเพลคิดว่ายังไงกันบ้าง?? บอกหมีน้อยช่างฝันบ้างนะคะ
Picture by other-things-amanzi-blogspot.com