SEO หรือ Search Engine Optimization คือ กระบวนการทำให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลในหน้าแรกของผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ SEO เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคนเข้าชมมากขึ้น และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
การทำ SEO ให้ติดใน Google สามารถทำได้หลายวิธี ในที่นี้เราจะมาแนะนำ 20 วิธีในการทำ SEO ให้ติดใน Google ดังนี้
1. กำหนดเป้าหมาย SEO
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเริ่มทำ SEO คือการกำหนดเป้าหมาย SEO ว่าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในคำค้นหาอะไรบ้าง โดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ของคุณ
2. วิเคราะห์ Keyword
Keyword คือคำหรือวลีที่ผู้คนใช้ในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต การวิเคราะห์ Keyword จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าผู้คนกำลังค้นหาอะไร และค้นหาด้วยคำใดบ้าง
3. เขียนบทความให้คนค้นเจอ
การเขียนบทความให้คนค้นเจอเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO บทความของคุณควรมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ค้นหา และมีการเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสม
4. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์
โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีจะช่วยให้ Google สามารถเข้าถึงและเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีควรมีการแบ่งหมวดหมู่และลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์อย่างเป็นระเบียบ
5. เพิ่มเนื้อหาให้เว็บไซต์
เนื้อหาใหม่ ๆ จะช่วยให้ Google ทราบว่าเว็บไซต์ของคุณมีการอัปเดตอยู่เสมอ เนื้อหาใหม่ ๆ ควรมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเดิม และมีการเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสม
6. ปรับแต่ง Title และ Meta Description
Title และ Meta Description เป็นข้อความสั้น ๆ ที่แสดงผลในหน้าผลการค้นหา การปรับแต่ง Title และ Meta Description จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
7. สร้างลิงก์กลับ (Backlink)
ลิงก์กลับเป็นลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ไปยังเว็บไซต์ของคุณ การมีลิงก์กลับจากเว็บไซต์อื่น ๆ จะช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพและเชื่อถือได้
8. ใช้งาน Social Media
Social Media เป็นช่องทางสำคัญในการเผยแพร่เนื้อหาไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณ การทำ SEO ให้ติดใน Google จำเป็นต้องมีการเผยแพร่เนื้อหาไปยัง Social Media ด้วย
9. ใช้งานเครื่องมือ SEO
เครื่องมือ SEO จะช่วยให้คุณวิเคราะห์เว็บไซต์และค้นหา Keyword ที่เหมาะสมได้ เครื่องมือ SEO ที่นิยมใช้กัน ได้แก่ Google Search Console, Ahrefs, และ SEMrush
10. วิเคราะห์คู่แข่ง
การวิเคราะห์คู่แข่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคู่แข่งของคุณทำ SEO อย่างไร และเว็บไซต์ของคุณมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร
11. ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์
ความเร็วของเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ เว็บไซต์ที่โหลดช้าจะส่งผลเสียต่ออันดับในผลการค้นหาของ Google
12. ใช้งาน HTTPS
HTTPS คือโปรโตคอลความปลอดภัยของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะได้รับคะแนนจาก Google สูงกว่าเว็บไซต์ที่ใช้ HTTP
13. ใช้งานภาพและวิดีโออย่างเหมาะสม
ภาพและวิดีโอเป็นองค์ประกอบสำคัญในบทความของคุณ การใช้ภาพและวิดีโออย่างเหมาะสมจะช่วยให้บทความของคุณน่าสนใจและดึงดูดผู้อ่านได้
14. แปลบทความเป็นภาษาอื่น
การแปลบทความเป็นภาษาอื่นจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
15. จัดทำเว็บไซต์สำหรับมือถือ
ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ การทำเว็บไซต์สำหรับมือถือจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลได้ดีบนมือถือ
16. ปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
นอกจากเว็บไซต์สำหรับมือถือแล้ว การทำเว็บไซต์ให้เหมาะกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตทีวี ก็มีความสำคัญเช่นกัน
17. อัปเดตเว็บไซต์เป็นประจำ
การอัปเดตเว็บไซต์เป็นประจำจะช่วยให้ Google ทราบว่าเว็บไซต์ของคุณมีการอัปเดตอยู่เสมอ
18. ตรวจสอบเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณ และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที
19. เรียนรู้เทคนิค SEO ใหม่ ๆ
เทคนิค SEO ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ การติดตามและเรียนรู้เทคนิค SEO ใหม่ ๆ จะช่วยให้คุณทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
20. อดทน
การทำ SEO ต้องใช้ความอดทน ผลลัพธ์ของการทำ SEO อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ทั้งนี้ การทำ SEO ให้ติดใน Google จำเป็นต้องทำอย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง การทำ SEO เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดใน Google
สำหรับบทความที่น่าอ่านกันสำหรับ SEO ได้แก่
20 วิธี ทำ SEO ให้ติดใน Google ทำอย่างไร?
Keyword คืออะไร? ช่วยทำ SEO ได้อย่างไร?