คำว่า รัก นั้น เริ่มต้นจากคนสองคนที่มีความรักให้กันและกัน

เป็นห่วงใยกัน อยากดูแลกันและกัน และอยากใช้ชีวิตร่วมกัน

 

และเมื่อ “เวลา” กับ “ความรัก” ก้าวเดินไปพร้อมกัน…..

จนทุกอย่างรวมตัวกันจนเกิดเป็น “ความผูกพัน”

 

และเมื่อทุกอย่างผสมผสานกันได้อย่างเต็มที่และลงตัวแล้วนั้น

สิ่งๆต่างๆที่เคยวาดฝัน และวางแผนด้วยกันนั้น ก็เริ่มที่จะปรากฎขึ้นจริง

ตามกาลเวลาที่เหมาะสม…..

 

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดงานแต่งงาน การซื้อทรัพย์สินด้วยกัน

เช่น รถยนต์ บ้าน หรือ อาจจะเป็นการลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน

 

 

ภาพของเหตุการณ์เหล่านี้…

เมื่อเวลาที่เรามีความสุข เราก็จะยิ้มกับมันอย่างภาคภูมิใจ

แต่เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ ภาพเหล่านี้ก็จะย้อนกลับมาทำให้เราร้องไห้กัน

 

 

ตัวอย่างเช่น

 

ตอนยังไม่แต่งงานกัน อะไรที่ทำด้วยกันทุกๆอย่างก็แลดูจะดีไปหมดทุกอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเวลา ตอนจีบกันแรกๆ ก็มักจะมีเวลามาให้กันสม่ำเสมอ

 

ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ กินอาหารด้วยกันทุกวัน คุยโทรศัพท์ด้วยกันทุกคืน

ดูหนังทุกเรื่องที่อยากจะดู

 

 

แต่เมื่อวันเวลาเหล่านั้นผ่านไปจนถึงจุดอิ่มตัว ว่าทุกอย่างพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

และเมื่อตกลงมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกันไปซะทุกอย่าง

 

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเวลา หลังจากแต่งงานแล้ว ผู้ชายก็มักจะเริ่มกลับบ้านช้าขึ้น

และเริ่มจะใช้เหตุผลว่าติดงาน ติดประชุมกลับบ้านดึกหน่อยนะ

 

และเมื่อชวนเที่ยว ก็มักจะอ้างว่าไม่มีเวลาเสมอ เพราะต้องเอาเวลาไปเที่ยวมาทำงาน

เพื่อสร้างฐานะครอบครัว ในบางคู่ ก็เป็นจริงดั่งตามที่บอกไว้ แต่ในบางคู่ก็ใช้ข้ออ้างเหล่านี้

เป็นการหลบหนีและหาความสุขให้กับตัวเองมากกว่า โดยการไปคบชู้ หรือ มีกิ๊ก

 

 

จากตัวอย่างนี้ ทำให้เห็นว่า คำว่า รัก นั้น มันคงยังไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตคู่

เพราะการมีชีวิตคู่ที่ดีนั้น นอกจากคำว่ารักแล้ว ยังต้องมีส่วนของการกระทำเป็น

ส่วนประกอบเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สามารถจับต้องและสัมผัสถึงได้ในสิ่งที่มีตัวตน

 

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใส่ใจซึ่งกันและกัน การถามไถ่กัน การเสียสละเวลา

ที่มีเล็กน้อยให้กันและกัน ให้กำลังใจกันและกัน เที่ยวด้วยกัน ให้ความสำคัญ

กับวันสำคัญด้วยกัน เป็นต้น

 

 

 

ถ้าหากสิ่งต่างๆเหล่านี้ยังสามารถคงอยู่ได้อย่างทุกวันทุกเวลาแล้วนั้น

ก็จะสามารถทำให้ชีวิตคู่ อยู่กันได้อย่างราบรื่น พร้อมกับความรัก อันสดใส

เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีความสุข ไม่มีเรื่องโกรธเคืองกัน  ไม่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน

และมอบความรัก ความห่วงใย ความหวังดีให้กันและกัน แค่เพียงเท่านี้…

 

 

ปัญหาของชีวิตคู่ก็จะหมดไป และนอกจากนี้ ก็จะพ้นภัยจากปัญหามือที่สามได้

อย่างง่านดายอีกด้วย

 

 

 

ก่อนจะจากไปมีข้อความเล็กๆน้อยๆฝากไว้

 

“เวลาของทุกคนมีเท่ากัน แต่เวลาของแต่ละคนนั้นแบ่งในเรื่องของส่วนต่างๆไม่เท่ากัน

โปรดจงอย่าใช้ข้ออ้างว่า ไม่มีเวลา เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนที่พูดว่าไม่มีเวลาให้

กับคนรักนั้น  แท้จริงแล้ว คนๆนั้น เห็นอย่างอื่นสำคัญกว่าคนรักของตนเอง  โดยที่คนรักของ

คุณเอง เห็นคุณสำคัญกว่าอย่างอื่นใด”

 

 

อย่าปล่อยให้คนรักของคุณต้องมีความรู้สึกที่ห่างไกลออกไป เพียงเพราะคุณคิดว่าเค้าไม่เข้าใจคุณ

แต่ให้ลองมองในมุมกลับกัน แล้วตัวคุณหละ เข้าใจในตัวคนที่คุณรักบ้างมั้ย ในบางทีคนรักของคุณ

อาจจะเข้าใจ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นบ่อยๆ ความอดทนมันก็อาจจะถึงขีดสุด จนระเบิดออกมาก็ได้นะเอยย

 

 

ทุกเวลาทุกนาทีมีคุณค่า โปรดจงใช้มันไปให้เกิดประโชยน์เถิด ยิ่งคนที่มีเวลาน้อยๆแล้วนั้น

อย่ามัวแต่เล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันนักเลย เอาเวลาที่เหลืออันน้อยนิดมาสร้างความสุขด้วยกันจะดีกว่านะจีะ

 

 

บับบายยยยยยยยยย

 

Credit  Picture by: www.katharinepooley.com

 

 

 

 

 

 

 

 

Comments

comments